หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

[เรื่องสั้น] 2062

โดย : Porman X


ครั้งหนึ่งเมื่อเราถึงสภาวะที่กลัวที่สุด จนหัวใจเต้นหลุดออกมาจากหน้าอก จนเหงือผุดออกจากผิวเป็นเม็ดๆ จนมือสั่นสะท้าน จนปากอ้าเองโดยร่างกายไม่ได้สั่ง จนระบบความทรงจำล้มเหลว จนต่อมผลิตสสารผลิตมันอย่างผิดปกติ เมื่อนั้น.....




มาการิตต้า คือชื่อโรงแรมในย่านนั้น มันเป็นตึกเก่าสภาพดีตั้งตรงกลางซากตึกใหม่หักพัง เป็นสถานที่คาวเลือดและมกความโสมมเหม็นเน่า ว่ากันว่าที่นี่มีผู้ผ่านทางมาจบชีวิตตัวเองลงทุกเดือน

ผมขยับกระเป๋าให้กระชับแผ่นหลัง ก่อนเดินขึ้นไปยังบันไดเก่า แต่ไร้เงาฝุ่น แมลงเล็ก หรือ สิ่งมีชีวิตใดใด มีเพียงกลิ่นชื่นๆ ที่เข้ามาทักทายผม

ซากกองเลือดเก่า และกล่องลังเปียกเป็นของประกอบฉากวางอยู่บนพื้นพรมสีแดง แต่กระนั้นเราก็สามารถแยกได้ว่า อันไหนคือสีของพรม อันไหนคือสีของเลือด

เมื่อมาถึงชั้นสอง ผมเดินผ่านแม่เฒ่าหลังค่อมจมูกงุมราวกับแม่มดหลงยุคที่กำลังบรรจงผับผ้าสีขาวผืนสะอาดไว้บนรถเข็นเป็นกองๆ ผมเปลี่ยนใจไม่ทักทายเธอด้วยคำใดใดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแหบแห้งออกจากลำคอ ขอให้เสียงแห้งๆ เย็นๆ นั้นไม่ได้เป็นเสียงที่กระทำต่อตัวผม

ประตูห้อง 202 มีหลายสี สีเขียวอ่อน สีเขียวแก่ สีเขียวดิบ สีเขียวดำ สีเขียวข้น และ สีแดงเลือดกระเซ็นติดประตูเล็กๆ พอให้รู้สึกระวังตัว เมื่อเปิดมาแล้วจึงแปลกใจกับสภาพห้องที่สะอาดเกินคาด เตียงใหม่สะอาด ห้องน้ำแห้งมองเห็นลายดอกไม้บรรจงงดงาม เครื่องสำอางของทางโรงแรมถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบอย่างดี กระจกใสมองเห็นผู้ชายหนาวเคราผมเริ่มยาวอยู่ในชุดรัดรูปมีรอยเสียหายจากการต่อสู้ ผมไม่ได้เห็นภาพตัวเองมานานจึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับมันเท่าไร

ผมวางกระเป๋าลงบนเตียง เปิดเอามีดสั้นที่ได้จากเพื่อนเก่าที่เวียนนาออกมาวาง เอาปืนบาเล็ตต้าที่ได้จากกลุ่มศพทหารรับจ้าง ดาบด้ามยาวเก่าแก่จากญี่ปุ่นที่ได้จากลุงพรชัย เครื่องฟังเพลงที่มีเพลงของวงเอดูโอ้ศิลปินจากฟินแลนด์อัดอยู่ข้างในเพียงอัลบั้มเดียว ออกมาวางลงบนเตียงนอนสะอาดนั้น

รู้ทั้งรู้ว่าเมื่อเราเปิดโทรทัศน์ เราจะเจออะไร แต่ผมก็หยิบรีโมตและเปิดมัน คล้ายกับเรารู้ว่าเราซื้อหวยแล้วเราจะถูกกิน แต่เราก็ซื้อมัน เพราะโอกาสที่เราจะถูกก็ยังมีอยู่

แต่ผมก็ไม่ถูก........ รายการนั้นมีอยู่รูปแบบเดียว คือธงสีฟ้าวงกลมปรากฎอยู่ในจอ พร้อมกับเพลงกล่อมเกลาจากกลุ่มสหไฟท์ทูดิเอน

ผมถอดรองเท้าจังเกิ้ลเก่าที่เหมือนจะเป็นเนื้อเดียวกับเท้าผมออก กลิ่นมันทุเรศเหลือคณา สำรวจแผลที่ง่ามเท้าพอเป็นพิธีเพราะรู้ว่ายังไงผมก็ไม่มีทางรักษามันได้เลย ด้วยสภาพแบบนี้ แม้ความรู้เก่าของผมมีเพียงพอที่จะรักษามันก็ตาม แต่เราจะหาอะไรได้ในโลกแบบทุกวันนี้


เสียงเคาะประตูนั้น ทำให้ผมต้องไปหยิบบาเล็ตต้าที่นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง แล้วเดินมาแนบกับผนั่งตรงข้ามประตูห้อง

"ใคร?" ผมถูกสอนว่าอย่าดูที่ช่องประตู หรือ ใกล้ประตูเมื่อมีคนมีเรียกหาเราเด็ดขาด

เสียงนั้นมาช้าจนทำให้ผมต้องเล็งอาวุธไปที่ประตู

"เค้าบอกว่า...." เสียงนั้นเบาและสั้น จนผมจับความไม่ได้

"อะไรนะ" ผมถามต่อเสียงดัง

"เค้าบอกว่าคุณเป็นหมอ..."

"เข้าใจผิดแล้วล่ะ... ผมไม่ใช่หมอ"



เมื่อไร้เสียงตอบกลับจากบุคคลนิรนามกว่าหลายนาที ผมจึงกระโดดไปเก็บของบนเตียงใส่กระเป๋า นำก้อนระเบิดประกอบเองอย่างง่ายขนาดพกพาออกมา กดลงไปยังแป้นโทรศัพท์เก่าที่ผูกติดกับมัน มันตอบสนองผมด้วยไฟสีเขียวอ่อนบอกว่ามันพร้อมทำงาน จากนั้นผมโยนมันไปกองอยู่หน้าประตูห้อง 202 มันร้องปิ๊บปิ๊บเบาๆ ตอบสนอง

จังเกิ้ลที่กัดขาผมยังไม่ได้ผูกเชือกติดเนื้อ แต่ผมไม่มีเวลาแล้ว ผมขยับตัวออกไปที่หน้าต่างห้อง แหวกม้านกลิ่มหอมน่ากลัวนั้นออก ใช้มีดสั้นเวียดนามนั้นกรีดกระจกออกในขณะที่ฟ้ามืดข้างนอนแลบแปล๊บๆ ฝนตกเบาๆ

ผมรอจนกว่าจะแน่ใจเมื่อนั้นผมจะกรีดให้มันเป็นวงกลม แล้วทยานตัวออกไปข้างนอก ตอนนี้มันเป็นวงกลมที่ยังไม่เสร็จ และผมไม่เคยใช้หูของผมฟังเสียงรอบข้างมากเท่านี้มาก่อน

ความเงียบมักฆ่าคุณเสมอ มันเป็นมิตรที่ดี และ ภูตวิญญาณที่เหี่ยมโหดในเวลาเดียวกัน



ครั้งหนึ่งเมื่อเราถึงสภาวะที่กลัวที่สุด จนหัวใจเต้นหลุดออกมาจากหน้าอก จนเหงือผุดออกจากผิวเป็นเม็ดๆ จนมือสั่นสะท้าน จนปากอ้าเองโดยร่างกายไม่ได้สั่ง จนระบบความทรงจำล้มเหลว จนต่อมผลิตสสารผลิตมันอย่างผิดปกติ เมื่อนั้น.....



ผมควบคุมตัวเองไม่ได้......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น